top of page
  • Writer's picturepmtwmocgoth

รายงานการส่งออกสินค้าขั้นกลางช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19


WTO ได้ออกรายงานข้อมูลการค้าสินค้าขั้นกลาง (Intermediate Goods) หรือสินค้าที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอื่น ๆ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 โดยระบุว่า การส่งออกสินค้าขั้นกลาง อาทิเช่น ชิ้นส่วนและ ส่วนประกอบ (parts and components) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา การขยายตัวของการส่งออกดังกล่าวแสดงให้เห็นแนวโน้มในช่วงขาขึ้นของการค้าสินค้าดังกล่าว ภายหลังจากการค้าสินค้าขั้นกลางที่ลดลงไปอย่างมากในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2563 เมื่อเกิดเหตุการณ์ระบาดของโรคโควิด-19


นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าขั้นกลางจากเอเชียในภาพรวมได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากสถิติ จีนส่งออกสินค้าขั้นกลางสำหรับอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจีนส่งออกสินค้าประเภทชิ้นส่วนไอทีและโทรศัพท์ และเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นหลัก ขณะที่การส่งออกสินค้าขั้นกลางจากแอฟริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 และจากจำนวนดังกล่าว ร้อยละ 38 เป็นการส่งออกสินค้าไปยังจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภท แร่เหล็ก ทองแดง และเพชร และส่งออกไปยังอินเดียร้อยละ 84 ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าที่สำคัญ คือ ทองคำ ขณะที่ทวีปอเมริกาเหนือมีการส่งออกสินค้าขั้นกลางเพิ่มขึ้นร้อยละ 11


ในส่วนของภาพรวมการส่งออกสินค้าขั้นกลางของโลกนั้น สินค้าขั้นกลางในระบบห่วงโซ่อุปทานที่มีการส่งออกเพิ่มมากที่สุด ได้แก่ สินแร่ (ores) รัตนชาติ (precious stones) และแร่หายาก (rare-earth) โดยมีการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 ขณะที่สินค้าอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าประเภทอุปกรณ์ขนส่ง (Transport Equipment) ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อปี 2563 ก็ยังคงมีแนวโน้มของการเติบโตที่ ไม่มากนัก โดยอยู่ที่ร้อยละ 6 เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อยอดขายและการหยุดชะงักของ สายการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์


รายงานของ WTO ยังระบุเพิ่มเติมว่า จีนเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าขั้นกลางที่สำคัญของโลก โดยมีการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นมากที่สุด ถึงร้อยละ 61 โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินแร่เหล็ก (iron ores) ซึ่งเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมเหล็ก ขณะที่ในยุโรปเอง อิตาลีมีการส่งออกสินค้าขั้นกลางเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทอะไหล่ยานยนต์และแร่มีค่า เช่น ทองคำ และโลหะกลุ่มแพลตินัม (Platinum Group Metal) ไปยังเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์


ขณะเดียวกัน จีนเป็นประเทศนำเข้าสินค้าขั้นกลางหลักของโลก โดยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 ขณะที่อินเดียซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้นำเข้าหลักของโลก มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 49 โดยนำเข้าชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จากบริษัทจากจีน และนำเข้าเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนและวัสดุทองคำจากสวิตเซอร์แลนด์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์


ในส่วนของภาพรวมการค้าระหว่างประเทศและระหว่างภูมิภาคนั้น การค้าสินค้าขั้นกลางระหว่างประเทศในทวีปเอเชีย มีมูลค่ารวมสูงสุดในโลก คือมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 635 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 30 ขณะที่การส่งออกจากทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกากลางและใต้ไปยังทวีปเอเชียเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41 และร้อยละ 30 ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร อาหาร และสินแร่


นอกจากนี้ การส่งออกจากทวีปเอเชียไปยังทวีปแอฟริกาได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ส่งออกเพิ่มขึ้นคือ ปาล์มน้ำมัน ผ้าทอ ชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์ประดับยนต์ และวัคซีน และสินค้าส่งออกจากทวีปอเมริกาเหนือส่งออกมายังทวีปเอเชียเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร และชิ้นส่วนวงจรไฟฟ้า


ผู้ที่สนใจรายละเอียดในเรื่องนี้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ https://www.wto.org/english/res_e/statis_e/miwi_e/info_note_2021q1_e.pdf

18 views0 comments
bottom of page