การบรรลุการเจรจาสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ทรัพยากรพันธุกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
- pmtwmocgoth
- Jun 17, 2024
- 1 min read

Image : wipo.int
สมาชิกองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization: WIPO) ได้บรรลุการเจรจาจัดทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ทรัพยากรพันธุกรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวกับทรัพยากรพันธุกรรม (WIPO Treaty on Intellectual Property, Genetic Resources and Associated Traditional Knowledge) ในระหว่างการประชุมทางการทูต (Diplomatic Conference) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-24 พฤษภาคม 2567 ณ สำนักงานใหญ่ WIPO นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
สนธิสัญญาประวัติศาสตร์ดังกล่าวกำหนดให้ผู้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรจะต้องเปิดเผยประเทศต้นทาง หรือแหล่งที่มาของทรัพยากรพันธุกรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง หากองค์ประกอบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งประดิษฐ์ในการขอรับสิทธิบัตร สนธิสัญญาฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันการนำเอาทรัพยากรพันธุกรรมและความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศกำลังพัฒนาที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ไปใช้อย่างไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม
ประเทศสมาชิกของ WIPO ได้ให้การรับรองสนธิสัญญาดังกล่าวด้วยฉันทามติ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมทางการทูต ภายหลังจากการเจรจาอย่างเคร่งเครียดรวมสองสัปดาห์ที่นครเจนีวา ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่า การบรรลุการเจรจาสนธิสัญญาดังกล่าวถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ภายหลังจากนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงกรอบกฎหมายของประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคี เพื่อให้มีการบังคับใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของทรัพยากรพันธุกรรมและความรู้ดั้งเดิมที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชนพื้นเมือง (indigenous people) และชุมชนท้องถิ่น (local communities) ต่อไป
จากข้อมูลในสื่อต่างประเทศ ระบุว่า ที่ผ่านมา มีเพียง 35 ประเทศเท่านั้น ที่มีกฎหมายหรือระเบียบในการให้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรพันธุกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นในบางรูปแบบ โดยมีหลายประเทศที่มิได้มีการบังคับ หรือมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี สนธิสัญญาฉบับใหม่นี้ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวทางมาตรฐานสากล และเป็นการยอมรับในเชิงประจักษ์เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างชุมชนท้องถิ่นกับทรัพยากรพันธุกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นกับระบบทรัพย์สินทางปัญญา และทำให้เชื่อมั่นว่า สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ทรัพยากรพันธุกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นได้รับการเปิดเผยแหล่งที่มา และจะได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอภายใต้ระบบทรัพย์สินทางปัญญาในระดับโลก
เป้าหมายหลักของสนธิสัญญาฯ ซึ่งผ่านการเจรจามาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ที่สำคัญคือ การเพิ่มความโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรพันธุกรรม เช่น ทรัพยากรพันธุกรรมที่พบในพืชสมุนไพร พืชผลทางการเกษตร และพันธุ์สัตว์ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น เครื่องสำอาง ยา และเทคโนโลยีชีวภาพ อย่างไรก็ดี แม้ว่าสนธิสัญญาดังกล่าวจะไม่ได้ระบุถึงการให้การชดเชยแก่ชนพื้นเมืองหรือชุมชนท้องถิ่น แต่รากฐานของสนธิสัญญาฯ ที่ได้จัดทำขึ้นนั้น มีส่วนสำคัญที่ทำให้เป็นที่รับทราบได้ถึงบทบาทของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์และถ่ายทอดองค์ความรู้ดั้งเดิมที่มีมาแต่เดิม
ทั้งนี้ สนธิสัญญาฯ ได้กำหนดให้ผู้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรเปิดเผยแหล่งที่มาของทรัพยากรพันธุกรรมและชุมชนชนเผ่าพื้นเมืองหรือชุมชนท้องถิ่นที่ให้ความรู้ดั้งเดิม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งประดิษฐ์เป็นสิ่งใหม่อย่างแท้จริง และได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของโดยชอบธรรม พร้อมทั้งกำหนดให้ประเทศภาคีสามารถกำหนดบทลงโทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม แต่อนุญาตให้มีการเปิดโอกาสให้ผู้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรมีโอกาสในการแก้ไขคำขอให้ถูกต้องก่อนที่จะใช้บทลงโทษ โดย สนธิสัญญาฯ จะมีผลบังคับใช้เมื่อ 15 ประเทศได้ให้สัตยาบัน
หากพิจารณาในรายละเอียด สาระสำคัญหลักของสนธิสัญญาฯ ได้แก่
1. การเปิดเผยแหล่งที่มา (Disclosure Requirement)
ผู้ขอรับสิทธิบัตรจะต้องเปิดเผยประเทศต้นกำเนิด (Country of Origin) ของทรัพยากรพันธุกรรม หากไม่ทราบที่มาก็ต้องเปิดเผยแหล่งที่มา (Source) หากมีแหล่งที่มาหลายแห่ง จะต้องเปิดเผยตำแหน่งของสถานที่ที่ได้รับทรัพยากร
ผู้ขอรับสิทธิบัตรจะต้องเปิดเผยชนเผ่าพื้นเมืองหรือชุมชนท้องถิ่นที่ให้ความรู้ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น หากไม่ทราบจะต้องเปิดเผยแหล่งที่มา (Source) เช่น วรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์หรือฐานข้อมูลสาธารณะ
หากไม่ทราบที่มา ผู้ขอรับสิทธิบัตรจะต้องจัดทำคำแถลงการณ์ (Declaration) ว่า การไม่ทราบแหล่งที่มานั้น เป็นความจริงและได้ทำอย่างสุดความสามารถ ขณะที่สำนักงานสิทธิบัตรจะต้องให้คำแนะนำในการปฏิบัติตามข้อกำหนดและโอกาสในการแก้ไขข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการในการเปิดเผยแหล่งที่มา โดยการเปิดเผยแหล่งที่มาจะต้องไม่เป็นภาระแก่ผู้ตรวจสอบสิทธิบัตรที่จะต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ทั้งนี้ ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลนี้นี้ จะไม่มีผลย้อนหลังไปกระทบคำขอสิทธิบัตรที่ได้มีการยื่นก่อนการเข้าเป็นภาคีของประเทศสมาชิก เว้นแต่ประเทศนั้น จะมีกฎหมายภายในที่กำหนดหลักเกณฑ์เรื่องการเปิดเผยแหล่งที่มาอยู่แล้วก่อนการเข้าเป็นภาคี
2. การนำไปปฏิบัติ (Implementation)
สนธิสัญญาฯ ได้รับการออกแบบให้นำไปปฏิบัติให้สอดคล้องกับความตกลงระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้ว โดยเชิงอรรถของมาตรา 7 ของสนธิสัญญาฯ ระบุว่า ทุกฝ่ายจะพยายามแก้ไขสนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (PCT) ต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้ขอรับสิทธิบัตรที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายภายในของบางประเทศที่กำหนดไว้ จะสามารถยื่นขอรับสิทธิบัตรระหว่างประเทศและในประเทศอื่น ๆ ได้
3. การมีผลใช้บังคับ
สนธิสัญญาฯ จะมีผลใช้บังคับสามเดือนหลังจากมี 15 ประเทศได้ให้ให้สัตยาบัน พร้อมทั้งระบุถึงบทบัญญัติเฉพาะที่อนุญาตให้สหภาพยุโรปเข้าร่วมได้
4. บทลงโทษและมาตรการเยียวยา
สนธิสัญญาฯ ไม่อนุญาตให้สิทธิบัตรเป็นโมฆะ หากไม่เปิดเผยข้อมูล แต่อนุญาตให้ใช้บทลงโทษภายหลังการให้สิทธิ์ได้หากพบว่า มีเจตนาให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ (fraudulent intent) ในการเปิดเผยข้อมูล
แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์บางส่วน แต่สนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการยกย่องว่า เป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ภายหลังจากการเจรจาอย่างยาวนาน 25 ปี โดยหลายฝ่ายมองว่า ถือเป็นการดำเนินการเชิงบวกสำหรับการดำเนินงานภายใต้กรอบพหุภาคีในการส่งส่งเสริมสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นในระบบทรัพย์สินทางปัญญา และสนธิสัญญาดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญของการแสดงออกซึ่งความพยายามระหว่างประเทศในการปกป้องทรัพยากรพันธุกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
ในส่วนของไทยนั้น กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ระบุในเอกสารข่าวของกรมฯ ว่า สนธิสัญญาฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และมีชุมชนท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของภูมิปัญญาที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรพันธุกรรม ทำให้การนำทรัพยากรธรมชาติมาพัฒนานวัตกรรมเพื่อใช้ในการเกษตร การแพทย์ และอุตสาหกรรม การปกป้องสิทธิของชุมชนเจ้าของภูมิปัญญา และการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรมจากพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ประจำถิ่นทำควบคู่กันไปได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ไทยอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตรให้สอดคล้องกับหลักการของสนธิสัญญาดังกล่าว เพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีของสนธิสัญญาดังกล่าวต่อไป
Daftar Link Dofollow
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
situs slot demo
slot demo X1000
scatter hitam
slot toto
situs slot online
situs slot online
situs slot online
situs slot
situs slot
situs slot
situs slot
situs slot
sudirman168
sudirman168
sudirman168
sudirman168
slot gacor
situs slot toto
situs toto
situs toto
situs toto
situs toto
slot gacor
slot gacor
toto singapure
situs toto 4d
toto slot 4d
pg soft mahjong2
mahjong2
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
terminalbet
terminalbet
situs slot gacor
data pemilu
utb bandung
universitas lampung
slot bonus new member
ksr88
ksr88
ksr88
ksr88
ksr88
Slot Dana
situs slot gacor hari ini
situs slot gacor
situs toto slot