'ทรัมป์' บีบจีนเลิกใช้สถานะประเทศกำลังพัฒนาใน WTO
สรุปโดย กมลทิพย์ พสุนธรากาญจน์ จะนู
ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในงานแถลงข่าวของทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ว่า สหรัฐได้ยื่นเรื่องต่อ WTO เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกการให้สิทธิพิเศษทางการค้าของประเทศกำลังพัฒนากับจีน โดยทรัมป์เห็นว่าจีนไม่สมควรถูกจัดอยู่ในกลุ่มสมาชิกที่มีสถานะเป็น "ประเทศกำลังพัฒนา" ภายใต้กรอบ WTO ซึ่งส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาจีนได้แต้มต่อทางการค้าเหนือสหรัฐอย่างไม่เป็นธรรมมาโดยตลอด
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคำพูดของทรัมป์ หมายความว่าสหรัฐได้ยื่นคำร้องครั้งใหม่ต่อ WTO อย่างเป็นทางการเพื่อให้ยุติสถานะประเทศกำลังพัฒนาของจีน หรือว่าหมายความถึงเอกสารข้อเสนอที่สหรัฐเคยยื่นต่อ WTO ก่อนหน้านี้เพื่อเรียกร้องให้มีการกำหนดเงื่อนไขหรือคุณสมบัติของสมาชิก WTO ที่จะไม่สามารถขอรับสิทธิพิเศษและความหยืดหยุ่นทางการค้า ซึ่งเงื่อนไขที่สหรัฐตั้งขึ้นนั้น รวมถึงการเป็นสมาชิก OECD หรือกลุ่ม G20 ตลอดจนการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงหรือมีสัดส่วนการค้าสินค้าทั่วโลกเกินร้อยละ 0.5 ทั้งนี้ หากข้อเสนอนี้ของสหรัฐได้รับการยอมรับ ก็จะทำให้สมาชิก WTO หลายรายไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสถานะประเทศกำลังพัฒนาภายใต้กรอบ WTO ได้อีกต่อไป รวมถึงจีน (และไทย) ด้วย
การโจมตีจีนเรื่องสถานะประเทศกำลังพัฒนา แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐที่มีข่าวความขัดแย้งแทบจะรายวัน หลังจากไม่นานมานี้ทรัมป์เพิ่งมีคำสั่งห้ามบริษัทและคนอเมริกันทำธุรกิจกับ TikTok และ WeChat ไปแล้ว โดยอ้างว่าแอปพลิเคชันของจีนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ คำสั่งของทรัมป์จะมีผลภายในเดือน ก.ย. นี้ เว้นเสียแต่จีนจะยอมขาย TikTok และ WeChat ให้กับบริษัทสหรัฐ ซึ่งคำสั่งฉบับดังกล่าวก็ทำให้จีนต้องออกมาตอบโต้ทันควันว่าสหรัฐละเมิดหลักการไม่เลือกปฏิบัติและกฎเกณฑ์การค้า WTO โดยฝ่ายจีนก็พร้อมที่จะเดินหน้าตอบโต้สหรัฐในเรื่องนี้ด้วย