COVID-19 โอกาส-ความท้าทาย IP ใหม่กับธุรกิจ E-Commerce
- pmtwmocgoth
- Sep 2, 2021
- 1 min read

องค์การการค้าโลก หรือ WTO เตรียมจัดการประชุมรัฐมนตรีการค้าครั้งที่ 12 (12th WTO Ministerial Conference Meeting: MC12) ในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2564 ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยประเด็นหลักที่สมาชิกให้ความสำคัญในการประชุม MC12 นั้น รวมถึงการอุดหนุนประมง พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) กฎระเบียบภายในของภาคบริการ การปฏิรูปกระบวนการระงับข้อพิพาท การปฏิบัติเป็นพิเศษต่อประเทศพัฒนาน้อยที่สุด การอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนสินค้าเกษตร เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ-วัคซีน และ การช่วยเร่งฟื้นเศรษฐกิจโลก ซึ่งหลายเรื่องมีการหารือกันล่วงหน้าไปบ้างแล้ว
นอกเหนือจาก WTO แล้ว ยังมีอีกหนึ่งองค์กร คือ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization) หรือ WIPO ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง E-Commerce เช่นกัน โดยมีมุมมองว่า E-Commerce สามารถเป็นช่องทางในการส่งเสริมธุรกิจให้แก่กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้กว้างขึ้น เช่น กลุ่มชนพื้นเมือง (Indigenous people) โดยเฉพาะชนพื้นเมืองสตรี และจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property: IP) ของกลุ่มชนพื้นเมือง ซึ่งทำธุรกิจโดยผ่าน E-Commerce หรือ Social Media ต่าง ๆ
โดยคำนึงถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าว WIPO ได้จัดทำโครงการต่าง ๆ ที่ต้องการสนับสนุนกลุ่มชนพื้นเมืองให้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญากับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการส่งเสริมธุรกิจควบคู่กันไป อาทิ การจัดทำ WIPO Indigenous and Local Community Women Entrepreneurship Program โดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา มีนักธุรกิจสตรีซึ่งเป็นชนพื้นเมืองได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรมของ WIPO ทั้งในส่วนของการฝึกอบรม การให้คำแนะนำ และการจัดการจับคู่ทางธุรกิจ โดย WIPO ได้ร่วมงาน การจัดกิจกรรมดังกล่าวกับองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ เช่น International Labour Organization (ILO) International Trade Centre (ITC) และ International Trademark Association (INTA) เป็นต้น
นอกจากนี้ WIPO ยังได้จัดการสัมมนาออนไลน์เพื่อให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เช่น ได้มีการจัด Webinar ในหัวข้อ E-Commerce and Intellectual Property for Indigenous Peoples and Local Community Entrepreneurs เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 โดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้าน E-Commerce ซึ่งมีผู้ประกอบการจากท้องถิ่นและผู้สนใจจาก ทั่วโลกราว 300 คน เข้าร่วมการหารือในประเด็นเกี่ยวกับความท้าทายด้านทรัพย์สินทางปัญญาและโอกาสในการทำธุรกิจ E-Commerce สำหรับกลุ่มชนพื้นเมือง
WIPO มองว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการพื้นเมืองและคนท้องถิ่นในชุมชนซึ่งโดยทั่วไปทำธุรกิจโดยการขายสินค้าและบริการซึ่งใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Traditional Knowledge) โดยการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าและบริการเอง หรือจำหน่าย/ให้บริการตามตลาดหรืองานเทศกาลต่าง ๆ และโดยที่กระแสการค้าของโลกที่เปลี่ยนไป โดยมีการ E-Commerce และการใช้ Social Media มากขึ้น ทำให้เกิดความท้าทายด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องชิ้นงานและความคิดสร้างสรรค์ สำหรับคนทั่วไปและชนกลุ่มพื้นเมืองมากขึ้น
ประเด็นสำคัญที่ได้มีการหารือในระหว่างการจัดสัมมนาดังกล่าว ได้แก่ (1) การให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ในการทำธุรกิจ (Digitalization) และความสำคัญของ E-Commerce และ (2) การนำเครื่องมือด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ในการปกป้องและส่งเสริมผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการของชนพื้นเมือง
หนึ่งในวิทยากร ซึ่งมาจาก ITC ชี้ให้เห็นว่า E-Commerce เป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการจาก ชนกลุ่มพื้นเมือง เนื่องจากสามารถเข้าถึงตลาดใหม่ในระดับโลกได้ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนและเวลาในการโฆษณาสินค้า ช่วยให้การติดต่อระหว่างผู้บริโภคและผู้จำหน่ายรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยลดอปุสรรคด้านการขนส่งและต้นทุน การขนส่ง เป็นต้น ขณะที่ E-Commerce ได้สร้างความท้าทายใหม่สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มชนพื้นเมือง เช่น ความจำเป็นในการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ด้านไอที ความกลัวเทคโนโลยี การขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที การสร้างนวัตกรรมใหม่ และความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น
ขณะที่วิทยากรจากมหาวิทยาลัย Bocconi และ Case Western Reserve University ระบุว่า เครื่องมือด้าน IP สามารถให้ความคุ้มครองแก่ภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ เช่น สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ และความลับทางการค้า สามารถเป็นเครื่องมือในการคุ้มครองสูตรของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์หรือสูตรอาหารพื้นเมืองได้ หรือ สิทธิบัตร ตราสินค้า การออกแบบผลิตภัณฑ์ ลิขสิทธิ์ และความลับทางการค้า สามารถคุ้มครองเทคนิคการทอผ้าพื้นเมือง การใช้วัตถุดิบ การตกแต่ง การใช้สีและลวดลาย เป็นต้น
อย่างไรก็ดี นอกจากการคุ้มครองแล้ว ผู้ประกอบการชนพื้นเมืองจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการจัด การภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วย เช่น การใช้ประโยชน์จากตราสินค้าร่วม หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยควรสามารถที่จะอธิบายความเชื่อมโยงระหว่างภูมิปัญญาท้องถิ่นและการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์ในการทำธุรกิจด้วย
นอกเหนือจากกิจกรรมดังได้กล่าวข้างต้นแล้ว WIPO ยังได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ WIPO Indigenous and Local Community Women Entrepreneurship Program ไว้ด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wipo.int/tk/en/news/tk/2021/news_0020.html
*************************
Daftar Link Dofollow
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
lapak7d
situs slot demo
slot demo X1000
scatter hitam
slot toto
situs slot online
situs slot online
situs slot online
situs slot
situs slot
situs slot
situs slot
situs slot
sudirman168
sudirman168
sudirman168
sudirman168
slot gacor
situs slot toto
situs toto
situs toto
situs toto
situs toto
slot gacor
slot gacor
toto singapure
situs toto 4d
toto slot 4d
pg soft mahjong2
mahjong2
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
pocari4d
terminalbet
terminalbet
situs slot gacor
data pemilu
utb bandung
universitas lampung
slot bonus new member
ksr88
ksr88
ksr88
ksr88
ksr88
Slot Dana
situs slot gacor hari ini
situs slot gacor
situs toto slot