
ทุกวันนี้มีจำนวนธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย มีนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่เรื่อย ๆ หลากหลายบริษัทและผู้ประกอบการจึงเกิดการแข่งขันสูง จึงจำเป็นต้องหาทางผลิตสิ่งที่ดีกว่า ใหม่กว่า และล้ำกว่าอยู่เสมอ
ขณะเดียวกันสินค้าของผู้ประกอบการที่คิดค้นขึ้นมาอย่างยากลำบากนั้นกลับมีโอกาสถูกลอกเลียนแบบหรือขโมยกรรมวิธีการสร้างสรรค์ได้ตลอดเวลา องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก หรือ World Intellectual Property Organization (WIPO) จึงเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและป้องกันการล่วงละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในกลุ่มประเทศสมาชิกทั่วโลก อีกทั้งยังพยายามพัฒนาและส่งเสริมประเทศสมาชิกให้มีความเข้มแข็งในการรักษาสิทธิ์ในการทำการค้าโดยถูกต้องตามหลักทรัพย์สินทางปัญญา และก่อให้เกิดข้อกฎหมายต่าง ๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นข้อกฎหมายด้านเครื่องหมายทางการค้า อาทิ สนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Law Treaty) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “สนธิสัญญา DLT” ซึ่งล้วนเป็นข้อกฎหมายที่ WIPO สร้างเป็นแม่บทเพื่อให้ประเทศสมาชิกทั่วโลก นำไปปรับใช้ โดยอาจใช้ร่วมกับสนธิสัญญาและอนุสัญญาอื่น ๆ จากองค์การสหประชาชาติร่วมด้วย
สนธิสัญญา DLT สร้างขึ้นเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบการออกแบบผลิตภัณฑ์ และประโยชน์
ในการยื่นคำขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยในสนธิสัญญาได้ระบุว่าหากมีการจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการหรือผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและถือว่าเป็นผู้ถือครองสิทธิบัตรนั้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากผู้ใดละเมิดโดยการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาหรือลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์ และนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าจะเป็นภายในประเทศหรือนอกประเทศจะต้องถูกดำเนินคดีความตามกฎหมาย ในประเทศไทยเองได้มีการจัดตั้งกรมทรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้สังกัดกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่
พ.ศ. 2535 โดยมีบทบาทในการรับจดทะเบียนเพื่อให้ความคุ้มครองสิทธิบัตรภายในประเทศไทยและดูแลเรื่อง
ความถูกต้องของการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยหรือดำเนินการฟ้องร้องหากมีการละเมิดหรือข้อพิพาทต่าง ๆ
แม้ว่าในข้อกฎหมายนั้น ประเทศไทยนับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่พยายามทำตามข้อบทของสนธิสัญญา DLT แต่ทว่าคนไทยเองกลับมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมากและด้วยกระบวนการที่คนส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ทำให้ประเด็นของการจดสิทธิบัตรการออกแบบหรือเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเรื่องสำคัญที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้และมองข้ามไป โดยถ้าหากมองออกจากกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองตามภูมิภาคต่าง ๆ การจะจดสิทธิบัตรหรือการบังคับใช้ข้อกฎหมายต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากและต้องใช้เวลาในการให้ความรู้และสิทธิประโยชน์ของการจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์
ดังนั้นแล้วประเทศไทยจึงควรส่งเสริมและให้ความรู้ในเรื่องของการจดสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญา
เพื่อรักษาสิทธิของผู้ประกอบการและป้องกันการละเมิดสิทธิบัตรการออกแบบทั้งภายในและภายนอกประเทศตามข้อกฎหมายและข้อบทของสนธิสัญญา DLT ของ WIPO ในขณะเดียวกันก็ควรส่งเสริมการสร้างระบบและฐานข้อมูล เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและการจดสิทธิบัตรหรือความรู้ในเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญาได้ เพราะว่าการที่
ผู้ประกอบการในประเทศไทยได้ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรมากขึ้น อีกทั้งมีการยื่นและขึ้นทะเบียนจาก WIPO มากขึ้น นอกจากจะเป็นเครื่องยืนยันนวัตกรรมของผู้ประกอบการไทยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบ
ได้อย่างเห็นได้ชัด การสนับสนุนสนธิสัญญา DLT และการจดสิทธิบัตรการออกแบบมากขึ้นในประเทศไทยจึงนับได้ว่าเป็นประโยชน์มหาศาลทั้งแก่ประเทศและประชาชน สิทธิบัตรการออกแบบของผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดหรือสร้างผลงานในระดับโลก สร้างเม็ดเงินและโอกาสทางเศรษฐกิจได้ สำหรับในส่วนของประเทศเองก็เป็นการกระตุ้นให้มีการลงทุนหรือการทำธุรกิจมากขึ้นเนื่องจากนานาชาติมีความเชื่อมั่นในนวัตกรรมและการคุ้มครองสิทธิบัตรของไทยด้วย
Comments