top of page
  • Writer's picturepmtwmocgoth

การครบรอบ 10 ปี ของโครงการจีน ให้การสนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิก WTO ของ กลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด


เมื่อวันที่ 18 – 20 มกราคม 2565 องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ได้ร่วมกับจีนจัดการประชุม China Round Table ครั้งที่ 10 ผ่านทางระบบออนไลน์ ในโอกาสการฉลองครบรอบ 10 ปีของโครงการจีนที่ให้การสนับสนุนกลุ่มประเทศ LDCs ในการเข้าเป็นสมาชิก WTO โดยผู้เข้าร่วมได้ร่วมกันอภิปราย เกี่ยวกับประสบการณ์และความท้าทายต่าง ๆ ของกลุ่ม LDCs ในการเข้าเป็นสมาชิก WTO ตลอดจนหารือมุมมองต่ออนาคตของกลุ่ม LDCs รวมถึงการนำเสนอผลงานวิจัยเกี่ยวกับผลจากการเข้าเป็นสมาชิก WTO ของกลุ่ม LDCs 9 ประเทศที่เข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ได้แก่ เนปาล กัมพูชา กาบูเวร์ดี ซามัว วานูอาตู สปป.ลาว เยเมน ไลบีเรีย และอัฟกานิสถาน


นาง Ngozi Okonjo-Iweala ผู้อำนวยการใหญ่ WTO ได้กล่าวชื่นชมจีนที่สนับสนุนโครงการนี้มายาวนาน โดยเป็นโครงการเดียวในกรอบ WTO ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิก และเห็นว่าทั้งประเด็นกลุ่ม LDCs และการเข้าเป็นสมาชิก WTO นับเป็นบททดสอบที่สำคัญต่อศักยภาพของระบบการค้าพหุภาคีในการนำกลุ่มประเทศและประชาชนชายขอบเข้าสู่กระแสหลักของการค้าโลก โดยโครงการนี้ของจีนได้มีส่วนสำคัญในการทำให้สองเรื่อง ดังกล่าวได้รับความสนใจมากขึ้นตลอดจนสร้างประโยชน์ให้เกิดเป็นรูปธรรมผ่านกิจกรรมที่สำคัญ อาทิ การจัดให้มีเวทีสำหรับนักเจรจามาแลกเปลี่ยนบทเรียนและประสบการณ์ในการเจรจาเข้าเป็นสมาชิก WTO โครงการฝึกงานที่ WTO สำหรับกลุ่ม LDCs และการสนับสนุนกลุ่ม LDCs ให้สามารถเข้าสู่ระบบการค้าพหุภาคีได้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ WTO ยังระบุด้วยว่า 8 ประเทศจาก 23 ประเทศที่อยู่ระหว่างเจรจาเข้าเป็นสมาชิก WTO อยู่ในกลุ่ม LDCs ได้แก่ ภูฏาน คอโมโรส เอธิโอเปีย เซาตูเมและปรินซิปี โซมาเลีย เซาท์ซูดาน ซูดาน และ ติมอร์เลสเต โดยประเทศที่การเจรจาก้าวหน้าที่สุดในชั้นนี้คือคอโมโรส


นายหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีนยืนยันคำมั่นที่จะสานต่อการให้ความร่วมมือแบบ South-South ในกรอบของระบบการค้าพหุภาคี และจะยังคงสนับสนุนการสร้างเสริมศักยภาพและส่งเสริม ความร่วมมือกับสำนักเลขาธิการ WTO ต่อไปในการสนับสนุนกลุ่มประเทศ LDCs เข้าเป็นสมาชิก WTO และสามารถเข้าร่วมกับระบบเศรษฐกิจโลก

ขณะที่นาย Ali Djadda Kampard รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของ Chad และ ผู้ประสานงานของ WTO สำหรับกลุ่ม LDCs ได้กล่าวถึงความเปราะบางของกลุ่ม LDCs ในแง่ของส่วนแบ่ง การค้าโลก โครงสร้างพื้นฐาน และเหนือสิ่งอื่นใดคือความสามารถในการรับมือกับผลกระทบภายในและภายนอก นอกจากนี้ ผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 ต่อเศรษฐกิจของกลุ่ม LDCs ยิ่งทำให้การดำเนินการ และการผลักดันโครงการต่าง ๆ มีความท้าทายเพิ่มขึ้น


นอกจากนี้ นาง Mawine G. Diggs รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไลบีเรีย ในนามตัวแทนกลุ่ม g7+ WTO Accessions Group ยังได้กล่าวถึงข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งและจัดทำแผนงานสำหรับโครงการ “การค้าเพื่อสันติภาพใน WTO” หรือ “Trade for Peace in WTO” ที่กลุ่มได้เสนอในช่วงก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 12 (12th Ministerial Conference: MC12) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมบทบาทของการค้าและ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในการสร้างเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก


ทั้งนี้ การประชุมยังได้แบ่งปันและแลกเปลี่ยนบทเรียนและประสบการณ์ของกลุ่ม LDCs 9 ประเทศ ที่เข้าเป็นสมาชิก WTO ตั้งแต่ปี 2538 รวมถึง สปป. ลาวและกัมพูชา ซึ่งเป็นสมาชิกอาเซียน โดยมีการนำเสนอข้อเสนอแนะที่เป็นในทางปฏิบัติทั้งตั้งแต่กระบวนการก่อนแรกเริ่มก่อนยื่นความจำนงเข้าเป็นสมาชิก การเจรจา และหลังการเข้าเป็นสมาชิก WTO แล้ว


Source:

403 views0 comments

Commentaires


bottom of page